Content

Latex vs. Nitrile ถุงมือยางไนไตร ต่างจากถุงมือยางธรรมชาติอย่างไร? ควรเลือกแบบใด?

ก่อนจะสรุปได้ว่าควรเลือกถุงมือชนิดใด การเลือกใช้ยางไนไตรดีกว่าจริงหรือไม่ เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าถุงมือทั้ง 2 ชนิดนี้ มีแหล่งที่มาและจุดเด่นที่ทำให้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง

ข้อแตกต่างระหว่าง ถุงมือยางไนไตร และ ถุงมือยางธรรมชาติ

ผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน : ถุงมือไนไตร ผลิตจากยางสังเคราะห์ vs. ถุงมือยางธรรมชาติผลิตมาจากยางพารา

ซึ่งยางสังเคราะห์จากปิโตรเลียม หรือ ยางไนไตรล์ (NBR – Nitrile Butadiene Rubber) มีองค์ประกอบของ อะไครโลไนไตรล์และบิวตาไดอีน ซึ่งทนต่อสารไม่มีขั้ว เช่น น้ำมันชนิดต่างๆ ได้ดี ในส่วนของยางธรรมชาติ หรือ ยางพารา (Latex) มีองค์ประกอบของ ไอโซพรีน ซึ่งทนต่อสารละลายที่มีขั้วได้ดี ดังนั้น ถุงมือยางไนไตรจึงเป็นที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องสัมผัส น้ำมัน ไขมัน และสารละลายไม่มีขั้วต่างๆ อาทิเช่น โรงงานนผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ โรงพิมพ์ และงานด้านอาหารหน้าเตาที่ใช้น้ำมันเป็นต้น

มีความยืดหยุ่นที่ต่างกัน : ถุงมือยางธรรมชาติยืดหยุ่นกว่า

ถุงมือยางธรรมชาติมีความยืดหยุ่นสูงกว่าถุงมือไนไตร จึงทำให้สวมใส่ได้กระชับกว่า ช่วยเพิ่มความคล่องตัวที่มากกว่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน จุดเด่นในข้อนี้ ทำให้บางอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความละเอียด เช่นงานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เลือกใช้ถุงมือยางธรรมชาติ เพื่อเสริมความกระชับในการหยิบจับวัสดุชิ้นเล็ก และลดอาการเมื่อยล้าของการสวมใส่เป็นเวลาติดกันนานๆ

ความทนทานในการใช้งาน : ถุงมือไนไตรมีความแข็งแรงและคงทนมากกว่า

ยางสังเคราะห์มีความแข็งแรงกว่ายางธรรมชาติ มากถึง 3 เท่าที่ความหนาเท่ากัน ดังนั้น ถุงมือยางไนไตรจึงทนทานต่อการฉีกขาด แรงบิด รวมถึงทนต่อสารเคมี และน้ำมัน ได้ดีกว่าถุงมือยางธรรมชาติ เราจึงมักเห็นอุตสาหกรรมหนักต่างๆ นิยมใช้ถุงมือไนไตรมากกว่า เพราะคงทนการใช้งานในระยะเวลาที่นานกว่า ลดการสิ้นเปลืองจากการเปลี่ยนถุงมือใหม่ระหว่างการทำงาน

ความเหมาะสมกับผิวแพ้ง่าย : ถุงมือไนไตรไม่ก่อให้เกิดการแพ้โปรตีน

ถุงมือยางธรรมชาตินั้นมีโปรตีนเป็นองค์ประกอบ ผู้ส่วมใส่บางกลุ่มอาจแพ้โปรตีนได้ ทำให้ถุงมือยางไนไตรเหมาะกับผู้ที่แพ้โปรตีน ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่อาการแพ้ที่พบมักเกิดจากการแพ้แป้งที่ถูกใช้ในกระบวนการผลิตถุงมือยางธรรมชาติมากกว่าการแพ้โปรตีน เพื่อไม่ให้ถุงมือติดกันในขั้นตอนการบรรจุ ดังนั้น หากเราเลือกใช้ถุงมือยางธรรมชาติ ชนิดไม่มีแป้ง ก็จะสามารถป้องกันการแพ้จากใช้งานได้ และยังปลอดภัยกับการสัมพัสอาหาร เพราะเหตุนี้ ทำให้เรามักเห็นร้านอาหารที่ได้มาตรฐาน เลือกใช้เฉพาะถุงมือไร้แป้งเท่านั้น

ราคาที่แตกต่างกัน : ถุงมือยางธรรมชาติมีราคาที่ถูกกว่า

ถุงมือยางธรรมชาติผลิตจากยางพารา ซึ่งหาผลิตได้ในประเทศไทย จึงทำให้มีต้นทุนที่ต่ำกว่าถุงมือไนไตรที่ผลิตจากปิโตรเลียม ซึ่งต้องนำเข้าและมีราคาที่สูงกว่า

ความแตกต่างด้านคุณสมบัติของถุงมือยางธรรมชาติกับถุงมือไนไตร

ความแตกต่างด้านคุณสมบัติของถุงมือยางธรรมชาติกับถุงมือไนไตร

ควรเลือกถุงมือแบบใดดี?

ด้วยคุณสมบัติจากวัตถุดิบการผลิตที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ถุงมือยางนั้นจึงขึ้นอยู่กับสภาวะการทำงานของผู้ใช้งาน โดยเลือกประเภทถุงมือให้เหมาะสมกับงานและผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ยืดอายุการใช้งาน และยังสามารถช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองในอนาคตได้อีกด้วย

หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกใช้ถุงมือแบบใดสำหรับงานของคุณ สามารถแอดไลน์เข้ามาพูดคุยกับทีมของเราได้ที่ Line Official : @masswell

ขอบคุณภาพข้อมูลจาก: Facebook Sritrang Gloves Thailand 

author-avatar

About Masswell Group

ร่วมสร้างมาตรฐานความสะอาดสำหรับธุรกิจมานานกว่า 30 ปี

Related Posts

2 thoughts on “Latex vs. Nitrile ถุงมือยางไนไตร ต่างจากถุงมือยางธรรมชาติอย่างไร? ควรเลือกแบบใด?

  1. อาณดา พูดว่า:

    ถ้าใชเกับคนป่วยเจาะคอ ควรใช้แบบไหนดีค่ะ ยางพารา หรือไนไตร

    1. Masswell06 พูดว่า:

      แนะนำหากเป็นการใช้งานกับผู้ป่วยอย่างการเช็ดตัว หรือหยิบของใช้ทั่วไปแบบไม่เข้าทางช่องปาก ใช้กล่องสีเขียวค่ะ จะเป็นถุงมือยางไร้แป้ง เป็นยางธรรมชาติค่ะ (จะเป็นตัวเลือกที่ รพ. ส่วนใหญ่เลือกใช้) ทั้งนี้ หากเป็นการดูแลช่องปาก แนะนำใช้ถุงมือที่เป็น sterile เท่านั้น (ทั้งนี้ทางบริษัทจะไม่มีจำหน่ายรุ่นนี้โดยทั่วไปค่ะ สามารถสั่งเป็นกรณีพิเศษ แจ้งทางแชทได้เลยค่ะ)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *